ความรู้ทางการเงินและการวางแผนทางการเงิน สำคัญต่อคนทุกช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็กที่ควรได้รับการปลูกฝังพื้นฐานเรื่องวินัยในการออมเงิน ไปจนถึงวัยรุ่นและวัยทำงานที่ควรศึกษาเรื่องการลงทุน สิ่งสำคัญที่สุดคือการวางแผนทางการเงินเพื่อการเกษียณอายุ เพราะถึงวันหนึ่งทุกคนต้องเข้าสู่วัยที่ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เป็นแผนระยะยาวที่ต้องนึกถึงตั้งแต่วันแรกเมื่อเริ่มต้นเข้าสู่วัยทำงานเลยทีเดียว ซึ่งระหว่างทำงานและใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ อาจมีปัจจัยมากมายทำให้แผนการเปลี่ยนแปลงไปจากความคาดหมาย แต่หลักสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือ หลักการที่สามารถใช้และปรับเปลี่ยนได้ตลอด จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
5 หลักที่ต้องยึดไว้ เพื่อการเกษียณอายุอย่างไร้กังวล
การเกษียณอายุสำหรับแต่ละคนอาจมีนิยามไม่เหมือนกัน แต่โดยทั่วไปแล้วก็คือ การใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่ได้มีรายรับเข้ามาอย่างสม่ำเสมออีกต่อไป ทุกคนจึงต้องมีแผนเพื่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณ การคำนวณจำนวนเงินแล้วเก็บสะสมให้ได้มากพอ อาจไม่เพียงพอแล้วสำหรับยุคสมัยนี้ เพราะโลกเข้าสู่ยุคที่ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว นับจากช่วงนี้ไม่รู้ว่าเมื่อเกษียณจะมีอะไรใหม่ ๆ ที่ส่งผลทั้งในแง่บวกและแง่ลบบ้าง หลักการเหล่านี้จึงจะช่วยให้มีพื้นฐานเพื่อการใช้ชีวิตหลังเกษียณได้ดีขึ้น
1. เงินเก็บหลังเกษียณที่เผื่ออัตราเงินเฟ้อเรียบร้อยแล้ว
ปัจจัยที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเรื่อย ๆ มีอยู่มากมาย โดยเฉลี่ยต้องคำนวณอัตราเงินเฟ้อเผื่อไว้ 3% ในแต่ละปี จึงจะได้จำนวนเงินเก็บที่ใช้ในอนาคตได้อย่างสบาย สมการของสูตรเก็บเงินที่เผื่ออัตราเงินเฟ้อก็คือ ให้คำนวณเงินที่จะใช้ต่อปี คูณกับจำนวนปีที่จะมีชีวิตอยู่ก่อน จากนั้นจึงคูณกับอัตราเงินเฟ้อที่ 3% ต่อปีเข้าไป จะได้จำนวนเงินที่เพียงพอสำหรับการใช้ในเวลาที่เงินเฟ้อมากขึ้น
2. ค่าใช้จ่ายครอบคลุมด้านที่อยู่อาศัยอย่างเพียงพอ
สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการเกษียณอายุก็คือ การมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง คนรุ่นใหม่หลายคนอาจไม่ได้มองเรื่องการซื้อบ้านเป็นเรื่องสำคัญ เพราะไม่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตในเมือง หลายคนจึงวางแผนไว้ว่าจะอยู่บ้านพักคนชราที่จ่ายเป็นรายเดือนแทน ตรงนี้ก็ต้องนำค่าใช้จ่ายสำหรับที่อยู่อาศัยเข้าไปอยู่ในสมการเงินใช้หลังเกษียณด้วย บางคนอาจต้องการไปสร้างบ้านอยู่ชานเมืองหรือต่างจังหวัด อาจต้องวางแผนให้มีบ้านไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้มีบ้านได้ทันก่อนที่ราคาวัสดุก่อสร้างและราคาอสังหาริมทรัพย์จะพุ่งสูงขึ้น หากมีแผนที่จะซื้อที่ดินเอาไว้อยู่แล้ว ก็จะมีความได้เปรียบในจุดนี้
3. สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะได้รับหลังการเกษียณ
ก่อนวัยเกษียณให้ประเมินว่า มีสวัสดิการอะไรบ้างที่ตัวเองจะได้รับหลังเกษียณ ไม่ว่าจะเป็นสวัสดิการจากบริษัทหรือองค์กรที่ทำงานอยู่ สวัสดิการจากประกันสังคม สวัสดิการจากนโยบายภาครัฐ สิ่งเหล่านี้ต้องมีความตื่นตัวในการตรวจสอบและดำเนินการเอกสารต่าง ๆ ให้เรียบร้อย ไม่ปล่อยปละละเลยจนลืมสิทธิของตัวเองไป นอกจากนี้ สิทธิที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ สิทธิด้านสุขภาพ หากทำประกันสุขภาพไว้ หรือมีสวัสดิการด้านสุขภาพที่ใช้ได้ ควรเก็บรักษาเอกสารสำคัญต่าง ๆ ให้ดี
4. การลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว
การลงทุนเป็นสิ่งที่จำเป็นพอ ๆ กับการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุ การลงทุนมีหลายรูปแบบ ให้เลือกการลงทุนที่มีอัตราผลตอบแทนตามเป้าหมาย หรือเลือกรูปแบบการลงทุนที่ตัวเองถนัด สิ่งสำคัญคือการลงทุนโดยเข้าใจในสิ่งที่ตัวเองลงทุนอย่างดีพอ เพื่อที่จะได้ไม่เสี่ยงต่อการขาดทุนมากเกินไปจนกระทบต่อแผนเกษียณในอนาคต
5. สมดุลด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจ
นอกจากการเงินจะสำคัญต่อการเกษียณอายุแล้ว การดูแลสุขภาพร่างกายและจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กัน บางคนอาจละเลยที่จะลงทุนเรื่องอาหารที่ดี การพักผ่อนที่มีคุณภาพ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทุ่มเททำงานเก็บเงินให้ได้ตามต้องการ แต่สุขภาพก็เป็นเรื่องที่ใช้เวลาในระยะยาวกว่าจะเห็นผลลัพธ์เช่นกัน ในส่วนของสุขภาพจิตใจ หากไม่ได้มีพื้นฐานสุขภาพจิตที่แข็งแรงพอ ก็ควรลงทุนหาความรู้ในการสร้างสุขภาพจิตที่เข้มแข็ง จะได้ไม่ต้องใช้เงินและเวลาไปกับการบำบัดสุขภาพจิตช่วงหลังเกษียณนั่นเอง
การเกษียณอายุอย่างมีเป้าหมาย จะช่วยเป็นแรงขับเคลื่อนให้รู้จักวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่ใช่แค่วินัยทางการเงินและความรู้ทางการเงินอย่างเดียว แต่การวางแผนชีวิตด้านอื่น ๆ อย่างเช่นสุขภาพ ก็สำคัญเช่นกัน เงินที่เก็บไว้เพื่อการรักษาพยาบาล อาจนำไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้อีกหากมีสุขภาพแข็งแรง ไม่เจ็บป่วย รวมถึงสมาชิกในครอบครัวที่ยังอยู่ในวัยสร้างเนื้อสร้างตัว ก็จะได้มีผู้สูงอายุที่ยังมีความรู้ความสามารถอย่างคุณ ไว้พึ่งพาขอคำปรึกษาด้วย
